ซึ่งเหตุการณืที่สหรัฐอเมริกาได้นำเครื่องบินบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ใส่ประเทศญี่ปุ่นที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิซึ่งนั่นยิ่งทำให้เห็นแสนยานุภาพเรื่องของอาวุธอเมริกาว่ามีความร้ายแรงมากแค่ไหนแต่นั้นก็เหมือนกับสร้างความไม่ไว้ใจให้กับทางสหภาพโซเวียตมากขึ้นไปอีก

เพราะรู้สึกว่ากำลังถูกอเมริกาคุกคามและแสดงให้เห็นว่าเราเหนือกว่าสหภาพโซเวียตสถานการณ์ต่างๆเริ่มแย่ลงสหภาพโซเวียตยิ่งแพร่กระจายระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์หนักขึ้นในพื้นที่ฝั่งยุโรปตะวันออกโดยเป็นพื้นที่ติกับประเทศของตนเองเสมือนเป็นเกาะป้องกันในอนาคตว่า

ถ้าหากว่าอเมริกาจะโจมตีหรือรุกรานประเทศของเราก็ต้องฝ่านเมืองหน้าด่านพวกนี้ก่อนดังนั้นจึงเป็นผลทำให้ประเทศบริเวณฝั่งยุโรปตะวันออกเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์เกือบจะทั้งหมดนั่นเอง

จากนั้นจึงมีเหตุการณ์สำคัญหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ การส่งโทรเลขสถานทูตเพื่อส่งข้อมูลกลับไปยังประเทศของตนเองเช่นสถานทูตอเมริกาที่ประจำอยู่ในสหภาพโซเวียต หากรู้ข้อมูลใดมาก็จะส่งข้อมูลไปยังโทรเลขรายงานกลับไปยังฝั่งของตนเองเช่นเดียวกับสถานทูตของสหภาพโซเวียตที่อยู่ในอเมริกาถ้าหากสืบรู้ข้อมูลหรือความเคลื่อนไหวท่าทีของอเมริกาในเวลานั้นก็จะส่งกับไปยังประเทศของตนเองเช่นเดียวกันและความแตกแยกก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น

เมื่อประธานาธิบดีของอเมริกาได้สนับสนุนสุนทรพจน์ของอังกฤษที่พูดเอาไว้ว่าม่านเหล็กได้ปิดกั้นและแบ่งทวีปยุโรปแล้วและขอให้ประเทศพี่น้องที่พูดภาษาอังกฤษร่วมมือกับทำลายมากม่านเหล็กนี้ด้วยกันพูดง่ายๆก็คือเหมือนเป็น การเรียกร้องให้อเมริกากับอังกฤษจับมือกันและต่อต้านสหภาพโซเวียตที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างม่านเหล็กนี้ขึ้นมากั้นระหว่างยุโรปและหลังจากสุนทรพจน์นี้เองทำให้เกิดการแบ่งเป็นสองฝั่งระหว่าง ประเทศประชาธิปไตย และ ประเทศคอมมิวนิสต์อย่างชัดเจน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องเมืองหลวงกรุงเบอร์ลินของเยอรมันที่ถูกแบ่งออกเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตก  ดูบอลสด โดยกลุ่มเยอรมันตะวันตก สามประเทศที่ประกอบไปด้วยอเมริกาอังกฤษและฝรั่งเศสมีความเห็นตรงกันว่าอยากพัฒนาเยอรมันจึงรวมพื้นที่ของตัวเองที่ถูกแบ่งกันตามข้อตกลงก่อนหน้านั้นเข้าด้วยกันจนเป็นหนึ่งเดียว

ส่วนสหภาพโซเวียตที่ไม่เห็นด้วยที่จะพัฒนาเยอรมันจึงอยู่อีกฝั่งเรียกว่าฝั่งเยอรมันตะวันออกเมื่อทั้งสองถูกแบ่งออกกันอย่างชัดเจนและเกิดความบาดหมางกันและทำให้สตาลินผู้นำของสหภาพโซเวียตสั่งปิดทางเข้าพื้นที่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามายังเมืองหลวงได้

ในตอนนั้นทำให้คนที่อยู่ในกรุงเบอร์ลินอดยากไม่มีแม้แต่ข้าวกินอีกฝั่งที่สนับสนุนเยอรมันจึงทำการส่งข้าวและอาหารทางอากาศให้กับคนในเมืองหลวงแทนซึ่งเป็นแบบนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากและต่างฝ่ายจึงตั้งกองกำลังเป็นของตัวเองชื่อว่ากองกำลังนาโต้ของอเมริกาและสภาพโซเวียต