Category Archives: ข่าวท่องเที่ยว

การตั้งครรภ์: คัดเต้าตอนไหนและเริ่มแสดงอาการเมื่อกี่เดือน?

การตั้งครรภ์ เป็นกระบวนการที่ร่างกายของผู้หญิงปรับตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หนึ่งในอาการเริ่มแรกที่ผู้หญิงมักสังเกตได้คือ การคัดเต้า

ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การคัดเต้าสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและความรุนแรง

การคัดเต้าตอนไหนในช่วงตั้งครรภ์?

  1. ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ (สัปดาห์ที่ 4-6)  

   – การคัดเต้ามักเริ่มปรากฏในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ  

   – เกิดจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) รวมถึงฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ที่ผลิตจากรก  

   – ฮอร์โมนเหล่านี้กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเต้านม ทำให้เต้านมบวม ตึง และไวต่อการสัมผัส  

 

  1. ไตรมาสที่สอง (เดือนที่ 4-6)  

   – อาการคัดเต้ามักลดลงเมื่อร่างกายปรับตัวกับระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น  

   – อย่างไรก็ตาม อาจมีการขยายตัวของเต้านมต่อเนื่อง และเส้นเลือดบริเวณเต้านมอาจมองเห็นชัดขึ้นเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น

 

  1. ไตรมาสที่สาม (เดือนที่ 7-9) 

   – อาการคัดเต้าอาจกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายของการตั้งครรภ์  

   – เนื่องจากเต้านมเริ่มผลิตน้ำนมเหลือง (Colostrum) เพื่อเตรียมสำหรับการให้นมบุตร  

 

อาการคัดเต้าร่วมกับการตั้งครรภ์

– เต้านมอาจรู้สึกนุ่มและบวม  

– หัวนมไวต่อการสัมผัสและมีสีเข้มขึ้น  

– อาจมีเส้นเลือดที่มองเห็นได้ชัดขึ้นบริเวณเต้านม  

– ในบางกรณี อาจรู้สึกคันหรือมีอาการเจ็บเล็กน้อย  

 

เริ่มท้องกี่เดือนถึงแสดงอาการชัดเจน?

  1. ไตรมาสแรก (เดือนที่ 1-3) 

   – อาการเริ่มต้น เช่น คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ประจำเดือนขาด และคัดเต้า มักแสดงในช่วงสัปดาห์ที่ 4-6  

   – บางคนอาจมีตกขาวเพิ่มขึ้นหรือรู้สึกปัสสาวะบ่อย  

 

  1. ไตรมาสที่สอง (เดือนที่ 4-6) 

   – ช่วงนี้เป็นระยะที่อาการแพ้ท้องลดลง แต่หน้าท้องเริ่มขยายใหญ่ขึ้น  

   – การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือเต้านมที่เริ่มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  

 

  1. ไตรมาสที่สาม (เดือนที่ 7-9) 

   – ท้องขยายชัดเจน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และอาจรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารก  

 

วิธีดูแลเต้านมในช่วงตั้งครรภ์

– เลือกเสื้อชั้นในที่เหมาะสม: ควรใช้เสื้อชั้นในที่รองรับน้ำหนักเต้านมและช่วยลดความไม่สบาย  

– ดูแลผิวเต้านม: ใช้ครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อลดอาการคันและป้องกันรอยแตกลาย  

– ประคบอุ่นหรือเย็น: ช่วยบรรเทาอาการตึงและเจ็บได้  

 

การคัดเต้าเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ และมักแสดงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการปฏิสนธิ อาการนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการเตรียมร่างกาย

สำหรับการให้นมบุตร การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์สามารถช่วยลดความไม่สบายและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

 

สนับสนุนโดย    หูตึงรักษาหายไหม

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ  ประเทศสาธารณรัฐเช็ก

เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้นเซาท์โบฮีเมียของประเทศสาธารณรัฐเช็ก เมืองนี้มีความงดงามทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม

จากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเมืองเชสกี้ ครุมลอฟมีหลายแห่งที่น่าสนใจ ดังนี้:

 

  1. แม่น้ำวัตตาวา (Vltava River)

   – แม่น้ำวัตตาวาเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคหรือเรือแคนูเพื่อชมวิวที่งดงามของเมืองและธรรมชาติโดยรอบได้ นอกจากนี้ยังมีทัวร์เรือที่จะพานักท่องเที่ยวไปรอบๆ เมืองอีกด้วย

 

  1. อุทยานแห่งชาติภูเขา Šumava

   – ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเชสกี้ ครุมลอฟ อุทยานแห่งนี้มีธรรมชาติที่งดงามและเป็นที่นิยมสำหรับการเดินป่า ปั่นจักรยาน และสำรวจธรรมชาติ ภายในอุทยานยังมีทะเลสาบหลายแห่งและสัตว์ป่าที่น่าสนใจ

 

  1. สวนปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov Castle Garden)

   – สวนปราสาทนี้เป็นส่วนหนึ่งของปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง สวนมีการตกแต่งอย่างสวยงามและมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของเมืองและแม่น้ำวัตตาวาได้อย่างชัดเจน

  1. เขา Křížová Hora

   – เขาลูกนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ และมีทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเชสกี้ ครุมลอฟและภูมิทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน เป็นที่นิยมสำหรับการเดินป่าและถ่ายภาพ

 

  1. ถ้ำ Chýnov (Chýnovská Cave)

   – ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ และเป็นหนึ่งในถ้ำที่สวยงามและมีความสำคัญทางธรณีวิทยาของประเทศ การเที่ยวชมถ้ำนี้จะเป็นการสำรวจโลกใต้ดินที่น่าตื่นตาตื่นใจ

 

เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก ตั้งอยู่ที่ประเทศเช็กใต้ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

 

หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจที่สุดในเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ คือปราสาทปูนและป้อมปราสาทเก่า ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ ป้อมปราสาทเหล่านี้มีอายุกว่า 800 ปี และยังคงเป็นเครื่องราชอาณาจักรในยุโรปที่มีระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพอยู่ในขณะนี้

 

นอกจากนี้ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ ยังมีวิทยาเขตประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในบริเวณเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมสมัยกลางฟอร์มและอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14

 

สถานที่อื่นๆ ที่ควรเยี่ยมชมในเชสกี้ ครุมลอฟ ได้แก่พิพิธภัณฑ์ชีวภาพสมเด็จพระเจ้าแมรี เทอเรซีย์ และพิพิธภัณฑ์อื่นๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเช็ก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์มีโบราณวัตถุเช็ก หรือพิพิธภัณฑ์นาซี ที่มีความสำคัญในด้านศิลปะและวัฒนธรรมของเช็ก อีกทั้งยังมีตลาดกลางเมืองที่น่าสนใจและชายหาดสวยงามบริเวณทางชายฝั่งของแม่น้ำวิลวา.

 

การเดินทางมาเยือนเชสกี้ ครุมลอฟ จะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าและสนุกสนานที่ไม่มีที่ไหนเทียบเท่าได้!

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบไหนดี

แม่ใจสลาย ลูก 2 ขวบ คลาดสายตา ปีนลงบ่อจระเข้ ถูกรุมทึ้งเหลือแค่กะโหลก

ปีนลงบ่อจระเข้ ถูกรุมทึ้งเหลือแค่กะโหลก วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เหตุการณ์สุดสะเทือนใจเกิดขึ้นที่จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อลูกสาววัย 2 ขวบของครอบครัวหนึ่งต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังเกิดอุบัติเหตุอันน่าเศร้าภายในฟาร์มเลี้ยงจระเข้ของครอบครัว  

 

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้า ขณะที่พ่อของเด็กหญิงกำลังยุ่งอยู่กับงานในบริเวณฟาร์มจระเข้ ส่วนแม่ของเด็กก็ทำงานบ้านอยู่ภายในบ้าน ปล่อยให้ลูกสาวเล่นอยู่บริเวณลานหน้าบ้านตามปกติ โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ระแวงถึงภัยร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น  

 

ขณะที่เด็กหญิงกำลังเล่นอยู่นั้น เธอได้เดินหลงเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มจระเข้ ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายที่มีจระเข้จำนวนมากถูกเลี้ยงไว้ในบ่อขนาดใหญ่

โดยรอบบ่อมีรั้วกั้นไว้ แต่ด้วยความซุกซนตามประสาเด็กน้อยวัยกำลังอยากรู้อยากเห็น เธอได้ปีนขึ้นไปบนขอบรั้ว และเสียหลักพลัดตกลงไปในบ่อจระเข้โดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น  

เมื่อพ่อแม่ของเด็กออกมาดูแล้วพบว่าลูกสาวหายตัวไป ก็รีบช่วยกันตามหาอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งได้พบภาพที่ทำให้หัวใจของพ่อแม่แทบแตกสลาย ร่างของลูกสาวอยู่ท่ามกลางฝูงจระเข้ที่กำลังรุมกัดกินร่างเล็กๆ ของเธอ

อย่างไม่ปรานี แม้พยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการณ์ สุดท้ายสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงกะโหลกศีรษะที่ลอยอยู่ในบ่อ  

 

เสียงร้องไห้ปานใจจะขาดของแม่ผู้สูญเสีย ดังก้องไปทั่วบริเวณ สร้างความเศร้าสลดให้กับทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ ไม่มีคำปลอบโยนใดที่เพียงพอจะบรรเทาความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวนี้ได้  

 

หลังเกิดเหตุ ตำรวจท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย ขณะเดียวกันก็ได้เตือนให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์อันตรายเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ซึ่งอาจเกิดเหตุร้ายลักษณะนี้ได้ทุกเมื่อ หากไม่มีมาตรการป้องกันที่รัดกุม  

 

กรณีนี้กลายเป็นอุทาหรณ์ที่สร้างความตื่นตัวให้กับชุมชนและสังคมในวงกว้าง หลายคนต่างสะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้สถานที่เสี่ยงอันตราย เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สระน้ำ หรือบ่อน้ำลึก  

 

ความสูญเสียในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ครอบครัวของเด็กหญิงต้องจมอยู่ในความโศกเศร้า แต่ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนที่ได้รับรู้เรื่องราวนี้

หลายครอบครัวเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลานมากยิ่งขึ้น และเรียกร้องให้ผู้ที่มีสถานที่เสี่ยงอันตรายติดตั้งมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจเช่นนี้อีก 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

โทมัส ทูเคิ่ล อยากได้ โรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้ สั่ง เชลซี ต้องเอานักเตะรายนี้มาให้ได้ 

           เว็บไซต์ เดลีเมลล์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในแวดวงการฟุตบอลเกี่ยวกับการซื้อนักเตะในช่วงนี้ว่าผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของทีมสโมสรเชลซี 

ซึ่งก็คือ โทมัส ทูเคิ่ล  ได้มีการแจ้งไปทางสโมสรเชลซี ว่าให้ช่วยเข้ามาจัดการปัญหาเรื่องของการซื้อตัวนักเตะ เนื่องจากว่าโทมัส ทูเคิ่ล อยากได้ตัวนักเตะของทีมสโมสรบาเยิร์นมิวนิค คนหนึ่งมาร่วมทีมเป็นอย่างมาก 

ซึ่งนักเตะคนที่โทมัส ทูเคิ่ล ออกอาการอยากได้ตัวมากจนถึงขนาดต้องไปขอร้องทางสโมสรเชลซี นั่นก็คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั่นเอง 

         โทมัส ทูเคิ่ล อยากได้ โรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้   จากการเปิดเผยของสำนักข่าวเดลินิวส์ระบุว่าในขณะนี้ทีมสโมสรเชลซี นั้นกำลังค้นหาตัวนักเตะหน้าใหม่มาร่วมทีม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองหน้าเนื่องจากว่านักเตะคนปัจจุบันของทีมเชลซี ที่เล่นในตำแหน่งกองหน้า  กำลังจะย้ายไปเล่นฟุตบอลกับทีมสโมสรอินเตอร์มิลาน ซึ่งนักเตะคนดังกล่าวก็คือโรเมลู ลูกากู  นั่นเอง 

 

          ดังนั้น โทมัส ทูเคิ่ล จึงจำเป็น ต้องหากองหน้าคนใหม่มาแทน  โรเมลู  ลูกากูและนักเตะที่โทมัส ทูเคิ่ล เล็งเอาไว้ว่าอยากให้มาเล่นตำแหน่งกองหน้าให้กับทีมสโมสรเชลซี

และมั่นใจว่าถ้าหากว่านักเตะรายนี้ย้ายมาอยู่ที่สโมสรเชลซี นั้นจะสามารถช่วยทางสโมสรทำประตูได้อย่างแน่นอนก็คือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นั่นเอง

ซึ่ง โทมัส ทูเคิ่ล ยืนยันว่ากองหน้าที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ที่เขามองเห็นว่าเล่นบอลได้อย่างยอดเยี่ยมก็คือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้  เพียงเท่านั้นในตอนนี้

 

 

 

         อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยออกมาจากสื่อโดยระบุว่าโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 

นั้นได้มีการออกมาเปิดเผยว่าตนเองนั้นยังไม่อยากที่จะย้ายไปเล่นฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ   ส่วนสาเหตุที่ทางโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไม่อยากจะย้ายมายังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นก็เพราะว่าเขายังไม่มั่นใจในตัวเองเขาไม่มั่นใจว่าตัวเอง

จะประสบความสำเร็จหรือไม่ถ้าหากมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  ซึ่งเรื่องนี้ทาง เอเย่นต์ของ โรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้ เป็นคนให้ข้อมูลกับสื่อ 

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีข่าวออกมาในลักษณะนี้แต่ทางสโมสรเชลซีนั้นก็จะพยายามอย่างเต็มที่ตามความต้องการของโธมัส ทูเคิ่ล 

นอกจากทีมสโมสรเชลซีอยากจะได้ตัวโรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้ แล้ว ก็ยังมีสโมสรอื่นที่เสนออยากได้ตัวโรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้ ไปร่วมทีมด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นสโมสรแอสเซ หรือแม้แต่สโมสรบาร์เซโลน่า 

          อย่างไรก็ตามจากการรายงานข่าวระบุว่าสโมสรที่มีโอกาสสูงที่จะได้ตัวโรเบิร์ต เลวานเดอฟสกี้ ไปร่วมงานด้วยนะน่าจะเป็นสโมสรบาร์เซโลน่า นั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย      เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

ประวัติ เกาะเซ็นทิเนลเหนือ (North Sentinel Island)

เกาะเซ็นทิเนลเหนือ  เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะอันดามันในอ่าวเบงกอล ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอินเดีย เกาะนี้มีพื้นที่ประมาณ 72 ตารางกิโลเมตร และมีลักษณะเป็นป่าเขียวชอุ่ม

รายล้อมด้วยหาดทรายและแนวปะการัง ความโดดเด่นของเกาะเซ็นทิเนลเหนืออยู่ที่ชนพื้นเมืองที่เรียกว่า “ชาวเซ็นทิเนล” ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้มานานนับพันปี ชาวเซ็นทิเนลถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมากที่สุด และยังคงมีวิถีชีวิตที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากอดีต

 

ชนพื้นเมืองเซ็นทิเนลเป็นกลุ่มคนที่ปฏิเสธการติดต่อจากภายนอกและแสดงความไม่เป็นมิตรกับผู้ที่พยายามเข้าใกล้เกาะ ชนเผ่านี้ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชนเผ่าที่มีความเป็นตัวเองสูงที่สุดในโลก

พวกเขายังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม โดยการล่าสัตว์และหาอาหารจากป่าและทะเล แม้ว่าโลกภายนอกจะพยายามติดต่อหรือทำการวิจัยเกี่ยวกับชาวเซ็นทิเนล แต่ทุกความพยายามกลับล้มเหลวเพราะชาวเซ็นทิเนลจะใช้ธนูและหอกไล่ล่าผู้บุกรุกออกจากเกาะ

 

มีประวัติบันทึกการพยายามเข้าถึงเกาะเซ็นทิเนลตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในปี ค.ศ. 1867 เมื่อเรือขนสินค้าของอินเดียเกิดอุบัติเหตุใกล้เกาะ

ผู้รอดชีวิตเล่าว่าชาวเซ็นทิเนลได้เข้ามาโจมตีพวกเขา และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักสำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐบาล และนักมนุษยวิทยาหลายคนพยายามเข้ามาศึกษาและช่วยเหลือชนเผ่านี้ แต่ล้วนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ในปี ค.ศ. 1974 มีทีมถ่ายทำสารคดีของ National Geographic ที่พยายามเดินทางไปยังเกาะนี้เพื่อบันทึกภาพชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนเกาะ

ทีมงานถูกโจมตีด้วยธนูและต้องหนีออกจากเกาะอย่างรวดเร็ว ต่อมารัฐบาลอินเดียได้ออกกฎหมายเพื่อปกป้องชาวเซ็นทิเนล โดยประกาศให้เกาะเซ็นทิเนลเหนือเป็นพื้นที่ห้ามเข้า และมีการตั้งเขตกันชนรอบเกาะเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

 

เหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2018 เมื่อชายชาวอเมริกันชื่อ จอห์น อัลเลน เชา (John Allen Chau) เดินทางไปยังเกาะเซ็นทิเนลเหนือเพื่อเผยแผ่ศาสนา เขาถูกชนเผ่าเซ็นทิเนลสังหาร

ทำให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับความจำเป็นในการปกป้องชนเผ่านี้จากโลกภายนอกและความเสี่ยงที่ชนเผ่าจะได้รับเชื้อโรคจากคนภายนอกที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของพวกเขา

 

รัฐบาลอินเดียยังคงถือว่าการปกป้องชนเผ่าเซ็นทิเนลเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการติดต่อจากภายนอกอาจทำให้ชนเผ่านี้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่พวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกัน

นอกจากนี้ ชนเผ่าเซ็นทิเนลยังถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมและมนุษยชาติที่ต้องได้รับการอนุรักษ์ แม้ว่าพวกเขาจะเลือกที่จะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกก็ตาม

เกาะเซ็นทิเนลเหนือยังคงเป็นปริศนาในหลายด้าน ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ยังไม่ได้รับการสำรวจอย่างละเอียด แต่เป็นที่รู้กันดีว่าชนเผ่านี้เป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ปกป้องตนเองจากการแทรกแซงของโลกภายนอกอย่างสุดชีวิต

 

สนับสนุนโดย    ผู้สูงอายุควรใช้เครื่องช่วยฟังแบบไหน

จุดเริ่มต้นและประวัติการนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพ

การนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพเป็นประเพณีที่มีรากฐานมาจากคติความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวพุทธมาเป็นเวลานาน

โดยมีความสัมพันธ์กับการเคารพนับถือพระพุทธศาสนาและการสร้างบุญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต จุดเริ่มต้นของประเพณีนี้สามารถสืบย้อนไปถึงยุคสมัยที่พระพุทธศาสนาถูกเผยแผ่ไปในภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นเมืองกับหลักคำสอนทางศาสนา

 

ในทางพุทธศาสนา ความตายถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ และตาย

โดยการนำพระสงฆ์มาสวดในงานศพนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับผู้ล่วงลับ และช่วยส่งเสริมจิตใจของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวและญาติพี่น้องที่อาจกำลังอยู่ในความทุกข์จากการสูญเสียคนที่รัก

 

การสวดในงานศพมักจะเป็นการสวดพระอภิธรรม ซึ่งเป็นบทสวดที่มีความสำคัญในศาสนาพุทธ โดยเฉพาะนิกายเถรวาท บทสวดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของชีวิต

การสวดพระอภิธรรมในงานศพเชื่อกันว่าจะช่วยให้วิญญาณของผู้ล่วงลับได้เดินทางไปยังภพภูมิที่ดีขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างบุญกุศลให้แก่ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้ยินบทสวด

นอกจากนี้ การสวดมนต์ยังเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่เข้าร่วมงานศพได้มีโอกาสในการทำสมาธิและไตร่ตรองถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตและความตายตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

การสวดในงานศพยังเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสงบและความเคารพต่อผู้วายชนม์ พระสงฆ์จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการส่งเสริมบุญกุศล

และเป็นเครื่องเตือนใจให้แก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ตระหนักถึงความไม่เที่ยงและความทุกข์ที่มาจากการสูญเสีย บทสวดที่ใช้ในพิธีกรรมศพนั้นจะช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบใจและคลายทุกข์ไปพร้อมกับการปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องผูกพันกับผู้เสียชีวิต

 

ในสังคมไทย พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้คำสอน การเป็นที่พึ่งทางจิตใจ รวมถึงการเป็นผู้นำในการจัดการพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย การสวดมนต์ในงานศพจึงเป็นอีกหนึ่งการแสดงออกถึงความเคารพนับถือและการสร้างความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณระหว่างผู้เสียชีวิตกับผู้ที่ยังอยู่

 

นอกจากนี้ การสวดในงานศพยังมีผลในการช่วยสร้างเสริมความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน เนื่องจากเป็นการรวมตัวของญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และคนในชุมชนเพื่อมาร่วมกันในพิธีกรรม ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่มีความทุกข์ใจ

 

สนับสนุนเนื้อหานี้โดย      เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร

ประจำเดือนมาช้า: อันตรายหรือไม่?

ประจำเดือนมาช้าเป็นอาการที่พบได้ในผู้หญิงหลายคนในบางช่วงชีวิต ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต

แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของประจำเดือนมาช้า และการพิจารณาว่าอาการเหล่านี้เสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่ จะช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้อย่างมั่นใจ

 

สาเหตุทั่วไปของประจำเดือนมาช้า

  1. ความเครียด (Stress): 

   ความเครียดส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในสมองที่ควบคุมการตกไข่และรอบเดือน ทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือขาดไปชั่วคราว

 

  1. น้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลง:  

   – น้ำหนักลดลงมากเกินไปหรือการเป็นโรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) สามารถรบกวนการตกไข่  

   – น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเร็ว เช่น ภาวะโรคอ้วน ก็สามารถส่งผลให้รอบเดือนผิดปกติได้

 

  1. การออกกำลังกายหนักเกินไป:

   นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก อาจพบว่าประจำเดือนมาช้าหรือไม่มาเลย เนื่องจากร่างกายมองว่าพลังงานที่ใช้ไม่เพียงพอสำหรับการตั้งครรภ์

 

  1. ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมน: 

   ยาคุมกำเนิดบางชนิดอาจทำให้ประจำเดือนมาช้าในช่วงที่ร่างกายปรับตัว หรือแม้กระทั่งทำให้ไม่มีประจำเดือนเลยในบางกรณี

 

  1. ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome – PCOS): 

   PCOS เป็นภาวะที่ฮอร์โมนแอนโดรเจนในร่างกายสูงกว่าปกติ ส่งผลให้รอบเดือนผิดปกติ น้ำหนักเพิ่ม และมีสิวมากขึ้น

 

  1. ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์:  

   ต่อมไทรอยด์ที่ทำงานผิดปกติ (ทั้งไทรอยด์เป็นพิษหรือไทรอยด์ทำงานน้อย) อาจส่งผลต่อรอบเดือน

ประจำเดือนมาช้าถือว่าอันตรายหรือไม่?

การที่ประจำเดือนมาช้าหรือไม่มาไม่จำเป็นต้องเป็นอันตรายเสมอไป หากเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น ความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต แต่ในบางกรณี อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ดังนี้:

  1. หากขาดประจำเดือนนานกว่า 3 เดือนติดต่อกัน (Amenorrhea):  

   อาจเกิดจากโรคทางระบบสืบพันธุ์ เช่น PCOS หรือปัญหาเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง

 

  1. อาการอื่นที่มาพร้อม:  

   – น้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติ  

   – ปวดท้องรุนแรง  

   – ตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออกผิดปกติ  

   หากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์

 

วิธีจัดการเมื่อประจำเดือนมาช้า

  1. ตรวจการตั้งครรภ์:

   หากมีเพศสัมพันธ์และประจำเดือนมาช้า ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจ

  1. ดูแลสุขภาพ:

   – ลดความเครียดด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ การนอนหลับให้เพียงพอ และการทำสมาธิ  

   – รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม  

  1. ปรึกษาแพทย์: 

   หากประจำเดือนมาช้าติดต่อกันนานหรือมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม

 

ประจำเดือนมาช้าไม่จำเป็นต้องเป็นอันตรายเสมอไป โดยอาจเกิดจากปัจจัยที่ไม่รุนแรง เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่หากมีอาการอื่นร่วม หรือขาดประจำเดือนนานเกิน 3 เดือน

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม การดูแลสุขภาพและการปรับสมดุลของร่างกายจะช่วยให้รอบเดือนกลับมาปกติและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพในอนาคต

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย      เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี

แนะนำสถานที่นั่งดื่มดริ้งที่เด็ดๆ ที่ฮานอย

ใครมองหาสถานที่นั่งดื่มดริ้งกับกลุ่มเพื่อน ณ ฮานอย  เรามีมาแนะนำสถานที่เด็ดๆ ต่อไปนี้  

1.เบซนีส 1920   ก้าวเข้าสู่ Beeznees ในยุค 1920

อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในกรุงฮานอย ที่ซึ่งการเดินทางย้อนเวลารอคอยอยู่ ค็อกเทลบาร์สุดพิเศษแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับบาร์แห่งใหม่ Ip club รวบรวมแก่นแท้ของทศวรรษ 1920

ด้วยธีมวินเทจและเครื่องดื่มค็อกเทลที่สร้างสรรค์และคลาสสิกที่คัดสรรมาอย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะอยู่กับเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่คุณรัก Beeznees 1920s มอบประสบการณ์หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองอันน่าหลงใหล  ลิ้มรสค็อกเทลเหนือกาลเวลา ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ และปล่อยให้เสียงเพลงพาคุณไป

ร้านบรรยากาศสบาย ๆ แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่บนถนน Phung Hung Street สร้างความประหลาดใจด้วยทางเข้าที่ซ่อนอยู่ โดยคุณสามารถดันชั้นวางหนังสือไปด้านข้างแล้ว

ขึ้นไปชั้นบนไปยังบาร์ที่น่าหลงใหลและเตาผิงอันเงียบสงบ เยี่ยมชม Beeznees 1920s บนถนน Ta Hien เพื่อเดินทางสู่เสียงคำรามของทศวรรษ 1920 ที่ซึ่งการตกแต่งแบบวินเทจและเครื่องดื่มชั้นเลิศรออยู่    

 

2.El Sol – ร้านอาหารและเครื่องดื่มผสมเครื่องดื่ม  

ก้าวเข้าสู่ร้าน El Sol – Eatery & Mixology จุดหมายปลายทางสุดพิเศษท่ามกลางบาร์ที่ดีที่สุดในฮานอย ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮว่านเกี๋ยม

คุณจะค้นพบส่วนผสมอันน่าหลงใหลของไวน์อันเปี่ยมล้นและพื้นที่ทางศิลปะอันน่าหลงใหลที่นี่ ร้านอาหารและบาร์ผสมเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในตัวเมืองฮานอยแห่งนี้ นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวของไวน์อะโรมาติก

และดนตรีที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ สร้างบรรยากาศที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับคนที่คุณรักและเพื่อนรัก    ที่ El Sol ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดมันส์ที่ดนตรีเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาที่น่าทึ่ง

ดื่มด่ำกับค็อกเทลอันเป็นเอกลักษณ์ที่บาร์ไวน์และลิ้มลองรสชาติของอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน El Sol – Eatery & Mixology คือสวรรค์ของบาร์ในฮานอยสำหรับผู้ชื่นชอบไวน์และผู้รักดนตรี    

 

3.Leo’s – ค็อกเทล & โค   ก้าวเข้าสู่ Leo’s Cocktails & Co เลานจ์บาร์บรรยากาศสบาย ๆ

และคลาสสิกริมทะเลสาบ Hoan Kiem อันงดงาม ร้านยอดนิยมในท้องถิ่นในฮานอยแห่งนี้ให้บริการเครื่องดื่มทำมือที่น่าประทับใจหลากหลายรายการ และบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจ

จะพาคุณไปยังพื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุโรปเหนือกาลเวลา ลิ้มลองอาหารที่มีให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงและคนที่คุณรักอย่างใกล้ชิด

  ค้นพบ Leo’s Cocktails & Co อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในบ้านโบราณของฮานอย สัมผัสประสบการณ์ศิลปะการผสมเครื่องดื่มด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น ด้วยบรรยากาศในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 และสุราคุณภาพสูง Leo’s

จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงเวลาแห่งความสุข ตั้งอยู่ใกล้กับ The Summit Bar ยอดนิยม ไวน์ผสมเครื่องเทศโฮมเมดอันเลื่องชื่อของพวกเขาจะนำคุณไปสู่ยุคอดีตในโอเอซิสที่ผ่อนคลายแห่งนี้   

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังอย่างดี

ปวดเข่าหายขาดได้ เพียงทำ 3 สิ่งนี้ให้เป็นนิสัย

อาการปวดเข่า เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือผู้สูงอายุที่มีการเสื่อมของข้อเข่าตามวัย การดูแลเข่าให้แข็งแรงและลดอาการปวดไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เหมาะสม

ดังนั้นหากคุณกำลังประสบปัญหานี้ การปฏิบัติตาม 3 วิธีต่อไปนี้สามารถช่วยให้อาการปวดเข่าบรรเทาและอาจหายขาดได้ในระยะยาว

 

  1. หลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ

การเดินขึ้น-ลงบันไดเป็นกิจกรรมที่สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อข้อเข่า โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินขึ้น-ลงในระยะทางยาวหรือต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องใช้บันได ควรพยายามลดจำนวนครั้งให้น้อยที่สุด

หรือใช้ลิฟต์หากมีให้บริการ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะอาจเพิ่มโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ การปฏิบัติตามข้อนี้จะช่วยลดภาระที่ข้อเข่าต้องรับและลดอาการปวดในระยะยาว

 

  1. หลีกเลี่ยงการนั่งพื้น

การนั่งพื้นโดยเฉพาะในท่าขัดสมาธิ หรือนั่งพับเพียบ อาจทำให้ข้อเข่าโค้งงอมากเกินไป ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อกระดูกอ่อนในข้อเข่า ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของข้อได้

ควรเลือกนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงและความสูงที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้เข่าอยู่ในตำแหน่งที่สบายและลดแรงกดดัน

การเปลี่ยนพฤติกรรมนี้จะช่วยลดการบาดเจ็บของข้อเข่า และป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

  1. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาที่เดินหรือยืน

น้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์อาจเพิ่มแรงกดดันต่อข้อเข่า ทำให้เกิดอาการปวดหรือการอักเสบได้ง่าย การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนที่มีไขมันต่ำ

และการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การว่ายน้ำหรือการเดินบนพื้นเรียบ จะช่วยลดภาระของข้อเข่าและทำให้อาการปวดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการปฏิบัติตาม 3 วิธีดังกล่าว การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าก็มีส่วนสำคัญ เช่น การยืดกล้ามเนื้อขา การฝึกโยคะ หรือการทำกายภาพบำบัด

เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อเข่า การปรึกษาแพทย์หากอาการปวดไม่ลดลงก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีผลอย่างมากต่อสุขภาพข้อเข่า หากคุณสามารถปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยให้อาการปวดเข่าหายขาดแล้ว ยังช่วยให้เข่ามีสุขภาพดีและแข็งแรงไปอีกยาวนาน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    hoiana เวียดนาม